การป้องกันกรุงหวิ่นที่โกลาหล: นางเอกของผู้รั้งความเป็นชาติเวียดนาม - ราชินี เจ Trieu Au

 การป้องกันกรุงหวิ่นที่โกลาหล: นางเอกของผู้รั้งความเป็นชาติเวียดนาม - ราชินี เจ Trieu Au

หากพูดถึงวีรสตรีแห่งสงครามในประวัติศาสตร์เวียดนาม ผู้คนมักจะนึกถึงTrưng Sisters หรือ Bà Triệu ซึ่งล้วนเป็นผู้ทรงคุณธรรมและกล้าหาญ อย่างไรก็ตาม ในบทความนี้ เราจะพาทุกท่านย้อนกลับไปยังช่วงเวลาที่ขื่นขมของกรุงหวิ่นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการรุกรานของจักรวรรดิมองโกล และได้พบกับราชินี เจ Trieu Au ผู้ซึ่งได้ทิ้งรอยอักษรอันน่าทึ่งไว้ในประวัติศาสตร์

ราชินี เจ Trieu Au เป็นบุตรสาวของขุนศึกผู้มีชื่อเสียง ชื่อ Trieu Quoc Dung เธอเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่มีอุดมการณ์แห่งความรักชาติและความกล้าหาญอย่างแรงกล้า ตั้งแต่ยังเด็ก เธอก็ได้รับการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้และการยุทธศาสตร์ทางทหารจากบิดาของตน ซึ่งทำให้เธอมีความสามารถที่เหนือกว่าผู้ชายทั่วไป

ในปี 1257 กองทัพมองโกลนำโดยพระเจ้าคูบไลข่านได้ยกพลมาตีกรุงหวิ่น ราชวงศ์ Tran ซึ่งปกครองเวียดนามในขณะนั้น ได้พยายามต่อสู้ แต่ก็ถูกกองทัพมองโกลที่มีกำลังเหนือกว่า overwhelm

เมื่อเห็นความวินาศของแผ่นดินเกิดขึ้น ราชินี เจ Trieu Au ก็ได้ตัดสินใจลุกขึ้นยืนเคียงข้างราษฎร เธอได้รวมพลขุนศึกและชาวบ้านที่แข็งแกร่ง ก่อตั้งกองทัพประชาชนเพื่อต่อต้านการรุกรานของมองโกล

ด้วยความชาญฉลาดในการวางแผน การใช้กลยุทธ์ และความกล้าหาญอย่างไม่เกรงกลัว เธอได้นำกองทัพของตนไปสู้รบกับกองทัพมองโกลในหลายๆ ครั้ง เธอได้ใช้ภูมิประเทศเป็นประโยชน์ สร้างกับดักและข่มขวัญศัตรู ทำให้กองทัพมองโกลต้องเผชิญกับความยากลำบากอย่างมาก

ถึงแม้ว่าราชินี เจ Trieu Au จะไม่สามารถชนะสงครามได้ในที่สุด แต่ความกล้าหาญและความเสียสละของเธอก็ได้ปลุกระดมให้คนเวียดนามลุกขึ้นมาต่อสู้กับศัตรูภายหลัง เธอได้เป็นสัญลักษณ์ของความรักชาติและความไม่ยอมแพ้

ราชินี เจ Trieu Au เสียชีวิตในปี 1285 แต่ชื่อเสียงของเธอยังคงถูกสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ เธอเป็นหนึ่งในวีรสตรีที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในประวัติศาสตร์เวียดนาม และเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลังได้ต่อสู้เพื่อความอิสระและชาติบ้านเมือง

วิธีการรบของราชินี เจ Trieu Au

ราชินี เจ Trieu Au ได้นำเอาวิธีการรบที่แปลกใหม่มาใช้ในการต่อสู้กับกองทัพมองโกล เธอไม่เพียงแต่ใช้วิธีการรบแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังได้ผสมผสานกลยุทธ์ต่างๆเข้าด้วยกันเพื่อสร้างความได้เปรียบ

  • สงครามยุทธศาสตร์: เธอใช้ภูมิประเทศเป็นประโยชน์ในการซุ่มโจมตีกองทัพมองโกล และหลบหนีจากการต่อสู้ที่ไม่สมดุล
  • การรุกแบบกะทันหัน: เธอได้นำกองทัพของตนไปโจมตีที่ๆคาดไม่ถึง ทำให้กองทัพมองโกลต้องตกใจและเสียศูนย์
วิธีการรบ การอธิบาย
ยุทธวิธีกำบัง: ใช้ป่าและภูเขาเป็นที่ซ่อนตัว และโจมตีจากด้านหลัง
การลวงกล: สร้างภาพลวงตาเพื่อให้กองทัพมองโกลหลงทาง และเดินเข้าสู่กับดัก

ปรัชญาในการต่อสู้

ราชินี เจ Trieu Au ไม่เพียงแต่เป็นวีรสตรีที่เก่งกาจเท่านั้น แต่เธอยังมีปรัชญานในการต่อสู้ที่น่าสนใจ:

  • ความรักชาติ: เธอได้ทุ่มเทชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดินเกิด และต่อสู้เพื่อความอิสระของคนเวียดนาม
  • ความกล้าหาญ: เธอไม่เคยยอมแพ้ต่อศัตรู แม้จะต้องเผชิญหน้ากับกองทัพที่ใหญ่กว่าและแข็งแกร่งกว่า
  • ความชาญฉลาด: เธอใช้ trí tuệ ของตนในการวางแผนและนำการรบไปสู่ชัยชนะ

ราชินี เจ Trieu Au เป็นตัวอย่างของวีรสตรีผู้กล้าหาญและทรงคุณธรรม เธอกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรักชาติและความไม่ยอมแพ้ของคนเวียดนาม